ชนเผ่ามายา

 Login or Register  

     

Tradition. & Custom.

 

 ด้านศาสนา

          ชนเผ่ามายาจัดว่าเป็นชนเผ่าที่ผูกพันกับศาสนาอย่างเคร่งครัด ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาเกี่ยวพันกับพิธีกรรมทางศาสนาทั้งสิ้น เช่น ก่อนที่พวกเขาจะปรับพื้นที่เตรียมปลูกพืชจะต้องทำพิธีกรรมสวดมนต์ขอโทษเทพเจ้าต่างๆ เช่น “ โอ เทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ บิดา และมารดาของข้าพเจ้า เทพแห่งขุนเขาและหุบเขา เทพารักษ์ในเขตป่าใหญ่ ได้โปรดอภัยให้ข้าพเจ้าในโอกาสที่ต้องเตรียมพื้นที่ปลูกพืช ซึ่งข้าต้องทำให้ความสวยงามของท่านทั้งหลายลดลงไป ที่ข้าต้องสวดมนต์อ้อนวอนท่านก็เพื่อจะได้ปลูกพืชเลี้ยงชีพข้าและญาติมิตรของข้าตลอดไป

  

 

  Religion Shapes Mayan Life

ที่มา : www. global2h.wordpress.com/maya

 ชาวนามายาที่อยู่ห่างไกลจากเมืองและอยู่ในป่ามักขุดถ้ำตามภูเขา เพื่อใช้เป็นสถานที่     ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และในถ้ำบางถ้ำนั้นชาวมายาจะนำศพของบรรพบุรุษไปฝัง ทั้งนี้เพราะชาวมายาเชื่อว่าน้ำที่ไหลจากภูเขาและออกมาตามถ้ำ คือน้ำจากใจกลางโลกที่สามารถเลี้ยงดูมนุษย์ได้ ดังนั้น การฝังศพของบรรพบุรุษในสถานที่ลึกเช่นนี้ จึงเป็นการไหว้วานให้วิญญาณให้ปกป้องน้ำ เพื่อชาวมายาได้มีใช้ตลอดไปด้วย นอกจากนี้การฝังศพในถ้ำก็เป็นการช่วยให้วิญญาณของผู้ตายได้ติดต่อกับยมเทพในนรก เพื่อขอร้องมิให้ยมเทพบันดาลเหตุร้ายแก่ตน

จากเอกสารพื้นเมืองหลายเล่มได้กล่าวถึงกษัตริย์หลายพระองค์ ทรงมีพระนามเทพเจ้าเควทซัลโคตร์ลต่อท้าย เช่นกษัตริย์โคปิลต์ซิน – เควทซัลโคตรล์ ซึ่งปกครองเมืองตอลลัน ช่วงศตวรรษที่10

นักประวัติศาสตร์หลายคนให้เหตุผลว่า เนื่องจากเทพเจ้าเควทซัลโคต์ล ทรงได้รับยกย่องว่า เป็นผู้มีบุญบารมีสูงส่ง มีชื่อเสียงและเป็นรัฐบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ ประชาชนทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ที่สืบทอดกันมาหลายรุ่น ได้พร้อมใจเรียกว่า กษัตริย์ เทพเจ้าของชนเผ่าหลานยแผ่นดินด้วยเหตุนี้ในยุคต่อมา เป็นต้น เนื่องมาจากเทพเจ้าของชาวมายามีหลายพระองค์ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละท้องที่ที่จะเคารพบูชาและความนิยมที่กว้างขวาง 

   เทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ นักบวชชั้นสูง ชนชั้นนักปกครอง และกองทัพนักรบมายา 

              จากเอกสารทางประวัติชนชาติและวัฒนธรรมจากภาษาอักษรภาพโบราณบางส่วนและการสำรวจขุดค้น ปรากฏข้อมูลที่สลับซับซ้อนและคลุมเครือเข้าใจยาก เนื่องจากชนเผ่ามายาเคารพบูชาเทพเจ้าหลายองค์ จนลำดับค่อนข้างสับสน แม้ว่าการลำดับความสำคัญของเทพเจ้ายังไม่เด่นชัด จากหลักฐานส่วนหนึ่งแนะนำว่า เทพเจ้าที่ทรงพระนามว่า ฮูแน็บ คู อาจเป็นบิดาแห่งเทพเจ้าทั้งหลายของชนเผ่ามายา แต่ขาดข้อมูลหรือรายละเอียดสนับสนุน

  


           ข้อมูลอีกส่วนหนึ่งได้เสนอแนะว่า พระเจ้าสูงสุดของชนเผ่ามายาชื่อว่า เทพเจ้าอิทซัมนา และก็อาจเป็นไปได้ที่ว่าเทพเจ้าทั้งสององค์อาจจะเป็นองค์เดียวกัน

        รองจากเทพเจ้าอิทซับนาลงมาก็คือ เทพเจ้าอาห์ คินชิง หรือ คินิช อะฮัว สุริยเทพที่ทรงมีพลังมหาศาล

-         เทพเจ้าอาห์ พุช เทพแห่งมรณะ

-         เทพเจ้าเอ็กซ์ ชัว เทพผู้พิทักษ์พ่อค้าและนักเดินทาง

-         เทพเจ้าแยม แค็กซ์ หรือ อาห์มัน เทพเจ้าแห่งพืชพันธุ์ธัญญาหาร

-         เทพเจ้าแช็ค เทพผู้บันดาลฝน ผู้ควบคุมลมพายุและฟ้าผ่า

-         เทพเจ้าบาแค็บ หมายถึงเทพที่มีหน้าที่อุปถัมภ์ในด้านต่างๆ เช่น เทพแห่งการเลี้ยงผึ้ง เทพที่มีอิทธิพลต่อปีที่โชคดีและโชคร้าย

 

 

In Mayan belief a serpent rope emerges from the center of the galaxy,symbolized by an 8-rayed or 8-spoked wheel. Cosmic sap oozes fromthis world tree or cosmic cross

 ที่มา : www.williamhenry.net/dis_maya

  นอกจากนี้ยังมีเทพเจ้าอื่นๆอีกหลายองค์ ที่มีอิทธิพลต่อการล่าสัตว์ การประมง สงคราม การประพันธ์ ดนตรี รวมทั้งเทพเจ้าที่มีความสัมพันธ์กับโลก ท้องฟ้า การบูชายัญด้วยชีวิตมนุษย์ การประดิษฐ์ปฏิทิน คณิตศาสตร์ เกษตรกรรม การพาณิชย์อีกจำนวนมาก

       เทพเจ้าของชาวมายาถือเป็นสมมุติเทพ เป็นผู้ยิ่งใหญ่เหนือมนุษย์และธรรมชาติ ดังนั้นภาพที่วาดออกมาทั้งเป็นลายเส้น ภาพสี ภาพแกะสลัก จึงออกมาในลักษณะที่แปลกประหลาด มีทั้งสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สัตว์เลื้อยคลาน นก มีทั้งด้านบกและลบ บางครั้งขัดแย้งกันเองในทัศนคติของมนุษย์

        สำหรับนักบวชชาวมายา คนธรรมดาไม่สามารถแปลหรือเข้าใจคำบัญชาของเทพเจ้าได้ จึงเป็นหน้าที่ของนักบวชหรือพระที่ผ่านการฝึกฝนจนชำนาญแล้ว นอกจากนี้นักบวชยังมีพลังวิเศษโดยเฉพาะ เข้าใจด้านเวทมนต์ พิธีกรรม ศาสตร์เร้นลับ และคำทำนายในสิ่งที่ขอร้องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้

         ผู้ที่เป็นนักบวชจะถือตามบรรพบุรุษสืบทอดกันมา และนักบวชจะต้องโสดไม่ได้ผ่านการแต่งงาน จากหลักฐานที่ปรากฏ พระที่มีตำแหน่งสูงสุดในยูคาตัน เรียกว่า อะเบา แคน ไม หรือ แอ็บ คิน ไม แต่เอกสารที่ปรากกในยุคหลัง เรียกว่า แอ็บ คิน หมายถึง

             ผู้เป็นทูตของสุริยเทพ  เป็นผู้นำในพิธีกรรมที่ศักดิ์สิทธ์ต่างๆ การทำนาย การแพทย์  เป็นผู้สอนนักบวชที่เรียนวิชาดาราศาสตร์ คณิตศาสตร์ การเขียนอักษรภาพ การเขียนปฏิทิน โดยมีคู่มือ คือ คัมภีร์ชิลันส์ สอนเกี่ยวกับปฏิทินคำพยากรณ์  สอนวิธีแปลความหมาย ลางบอกเหตุลึกลับ

 นักรบชนเผ่ามายา

ที่มา : http://www.felixmallok.de/Pic/Mexico/mex1509.jpg 

  นักบวชอีกระดับเรียกว่า นาคอมส์ มีหน้าที่ผ่าตัดหัวใจของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่กลายเป็นเครื่องเซ่นบูชายัญ ส่วนนักบวชที่เป็นพระและพ่อมดหมอผี เรียกว่า บี-เมน มีหน้าที่สำคัญคือ ร่ายเวทมนต์ และรักษาโรคต่างๆ

    ประชาชนชาวมายาส่วนใหญ่มีส่วนร่วมในพิธีกรรมที่กำหนดไว้ในปฏิทิน นับตั้งแต่พิธีกรรมพื้นบ้านปลูกพืชธัญญาหาร ล่าสัตว์ เด็กที่เกิดใหม่ ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวชาวนา ชาวไร่ก็จะไปรวมชุมนุมกันในเมืองและแสดงความจงรักภักดี เต้นรำ สวดมนต์ และเซ่นวิญญาณบรรพบุรุษด้วยตุ๊กตา และเผากำยานที่มีกลิ่นหอม

          พิธีบูชายัญนั้น ถือว่าเป็นพิธีกรรมที่ศักดิ์สิทธิ์และสำคัญของชาวมายา สัตว์ที่นำมาบูชายัญมักเป็นตะกวด อิกัวนา จระเข้ เต่า สุนัข หมูป่า เสือดำ และไก้งวงซึ่งอาจถูกฆ่าสดๆแล้วนำไปปรุงอาหาร ในบางกรณีสัตว์บางตัวถูกฆ่าและเอาเพียงหัวใจเท่านั้น แต่สำหรับพิธีกรรมที่ยิ่งใหญ่ มักสังเวยมนุษย์โดยมากจะถูกฆ่าในพิธี เชื่อว่าเลือดมนุษย์เป็นเครื่องเซ่นสำคัญที่จะรักษาเทพเจ้าเอาไว้ เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายอาจเป็นทาส ทหารที่เป็นศัตรูซึ่งถูกจับขังเอาไว้ อาชญากร เด็กจรจัด เด็กกำพร้า ได้ทั้งเพศชายและหญิง

           ผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกเลือกเป็นเครื่องเซ่นสังเวยจะถูกทาสีน้ำเงินตามร่างกาย จากนั้นก็จะถูกนำไปยังยอดพีระมิด นอนลงบนแท่นหินสี่เหลี่ยม กางแขนและขาออกโดยมีพระสี่รูปช่วยกันจับเอาไว้ ต่อมานักบวชนาคอมส์ก็ใช้มีดปลายแหลมที่ทำจากหินแก้วภูเขาไฟ ผ่าตรงงกลางหน้าอกฉีกเอาหัวใจออกมา แล้วส่งยื่นให้พระชั้นสูงทาหน้าตุ๊กตาจำลองเทพเจ้า ถือเป็นเสร็จสิ้นพิธี จากนั้นก็นำศพโยนลงไปตามขั้นบันได พระอีกกลุ่มที่อยู่ข้างล่างก็จะคอยถลกหนังและหั่นเนื้อและกระดูกแจกจ่ายขุนนาง ส่วนที่เหลือแบ่งให้ประชาชนรับประทานกันสดๆ เหลือไว้เฉพาะที่เป็นมือและเท้าสำหรับพระที่ประกอบพิธีกรรม

 

 

 

              พิธีบูชายัญที่ประหลาดอีกพิธีหนึ่ง เรียกว่า พิธีบูชายัญด้วยธนู โดยนำเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายทาสีน้ำเงินทั้งตัว ผูกไว้กับเสา ท่ามกลางนักเต้นที่ร่ายรำไปมาตามจังหวะกลองวนเป็นรอบวงกลมโดยแต่ละคนจะถือคันธนูและลูกศร ครั้งได้รับสัณญาณจากพระที่เป็นเจ้าพิธี แต่ละคนจะร่ายรำเข้าไปด้านหน้าและยิงธนูตรงหน้าอกของเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย จนกระทั่งเต็มหน้าอกแล้วจึงควักหัวใจออกมา นอกจากนี้ยังมีพิธีบูชายัญด้วยวิธีอื่น เช่น การแขวนคอ ถ่วงจมน้ำ การเฆี่ยนตี การตัดแขน ตัดขา ตัดศรีษะ เป็นต้น

                  ประเพณีการเล่นกีฬา

           กีฬาพื้นเมืองของชาวมายาแทบทุกชนิด เกี่ยวกับความเชื่อทางด้านศาสนาทั้งสิ้น ศูนย์กลางการเล่นกีฬาพื้นเมืองหลายแห่งของชนเผ่ามายามีสนามเล่นกีฬา โยนลูกบอลศักดิ์สิทธ์ ซึ่งถือประหนึ่งว่าเป็นกีฬาที่จัดขึ้นใต้ร่มมหาพีระมิด จากภาพที่แกะสลักไว้บนผนังแผ่นหินตามสนามกีฬาดังกล่าว ลักษณะการเล่นอาจเล่นสองคนหรือเล่นเป็นสองทีม ลูกบอลที่ใช้ทำจากยางดิบแข็งทรงกลม วิธีเล่นให้ผู้เล่นใช่สะโพกกระแทกลูกบอลที่เด้งลงแตะพื้นข้ามแนวเส้นที่กำหนดไว้ ห้ามใช้มือหรือเท้าเด็ดขาด จุดมุ่งหมายที่สำคัญ คือการโยนลูกกลับไปมาจากทางทิศเหนือใต้ของสนาม ลูกบอลถือว่าเป็นสัญลักษณ์ หมายถึง ดวงอาทิตย์โคจรผ่านแนวในรอบปี การโคจรตามวัฎจักรก็หมายถึงการนำเอาฝนมาตกในฤดูกาลใหม่ให้ชาวนาชาวไร่ได้ปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหารอีกครั้งหนึ่งไว้เลี้ยงชีพต่อไป

            สนามเล่มเกมนี้บางแห่งผูกห่วงหรือตาข่ายไว้บนกำแพงแต่ละด้าน ทีมใดสามารถกระแทกลูกบอลลงห่วงหรือตาข่ายได้มากกว่าเป็นฝ่ายชนะ ( คล้ายกับการเล่นตะกร้อลอดบ่วงของบ้านเรา )  

            ที่มา:บรรยงค์ บุญฤทธิ์.อาณาจักรลึกลับดินแดนอาถรรพ์ชนเผ่ามายา,กรุงเทพ:2537.

 

 

 


conclusion

Advertising Zone    Close

Online: 1 Visits: 71,684 Today: 8 PageView/Month: 492

ด้วยความปราถนาดีจาก "สยามทูเว็บดอทคอม" และเพื่อป้องกันการเปิดเว็บไซต์เพื่อหลอกลวงขายของ โปรดตรวจสอบร้านค้าให้แน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อของทุกครั้งนะคะ    อ่านเพิ่มเติม ...